ผมเป็นคนชอบฟังดนตรี เมทัล เป็นชีวิตจิตใจ (อันไม่ปกติ) หนึ่งในดนตรี เมทัลที่ผมชอบฟังก็คือ
แบลคเมทัล แบลคเมทัลเป็นดนตรีที่ หยาบ ชั่วช้า สามาร หนทางของมันเต็มไปด้วยความชั่วร้ายอำมหิต แฝงไปด้วยเลือดและความตายอันเป็นที่รัก ดนตรีในแบบฉบับของแบลคเมทัล เป็นดนตรีที่ หนัก ดิบ รวดเร็ว เสียงร้องแหบดิบดั่งถ้อยคำสบถของซาตาน กีต้าร์ กลอง & เบส รวดเร็วดุจมหาพายุพิโรธ
เนื้อหาของเพลงก็เกี่ยวกับ ความตาย ฆาตกรรม หมอกมืด ลมเหนือ และดินแดนแห่งสแกนดิเนเวียนอันเป็นมาตุภูมิ ทุกๆวงจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองเช่นการ Corpse pain หน้าให้เหมือนศพ การทรมานตัวเองขณะเล่นสด การประดับเวทีด้วยเศียรของสัตว์และกางเขนคว่ำ 4วง แบลคเมทัลที่ผมคิดว่าเป็นสุดยอดของสุดยอดก็ได้แก่ Mayhem Darkthrone Emperor และ Immortal สอดแทรกด้วยวง
อย่าง Satyricon และ Gorgoroth รวมถึง Dissection
แต่ในที่นี้ผมจะพูดถึง วง Dissection วง Dissection เป็นวงเมโลดิกแบลคเมทัลจากประเทศ Sweden เมือง Stromstad ก่อตั้งวงเมื่อปี 1989 โดย มหาบุรุษผู้ล่วงลับ Jon nodtveidt ผู้กระทำอัตวินิบาตกรรมตัวเองในวันที่ 16 สิงหาคมปี 2006 อัลบั้มเต็มของวง ก็ได้แก่
The somberlain 1993
Storm of the light's bane 1995
Reinkaos 2006
ส่วนเวอร์ชั่นแสดงสดของ Dissection ที่ผมเลือกก็คือ
Rebirth of Dissection 2006 DVD
ส่วนตัวผมคิดว่า Dissection เป็นวงเมโลดิกแบลคเมทัลที่ดีที่สุด มีเพลงติดหูจากแต่ละอัลบั้มมากมายไม่ว่าจะเป็น The Somberlain Heaven's Damnation จากอัลบั้ม The Somberlain ปี 1993 หรือไม่ว่าจะเป็น
Night's Blood Unhallowed Where Dead Angels Lie Retribution - Storm of the Light's Bane และ Thorns of Crimson Death จากอัลบั้ม Storm of the Light's Bane ปี 1995 ผมคิดว่างานเพลงเหล่านี้ส่งผลให้ Dissection กระโดดขึ้นมาเป็นแนวหน้าของวงการเมโลดิกแบลคเมทัลอย่างมิต้องสงสัย การได้เล่นในเทศกาลดนตรีใหญ่ๆอย่างเช่น Wacken open air นั้นเป็นข้อพิสุจน์ในความสามารถของ Dissection ได้เป็นอย่างดี แต่ในปี 1997 Jon ถูกจับด้วยข้อหาฆาตกรรมและถูกจำคุกเป็นเวลา 8 ปี ซึ่ง8ปีที่เขาถูกจองจำมิได้ผลิตผลงานเพลงออกมาให้แฟนๆได้ฟัง จนปี 2004 เขาได้ถูกปลดปล่อยจากการพันธนาการ และได้ออกอัลบั้มอีกในปี 2006 ซึ่งอัลบั้มนี้ผมว่ามันถดถอยจากการเป็นเมโลดิกแบลคเมทัลในแบบฉบับของ Dissectionไป มันกลายเป็นแค่ดนตรีเมโลดิกเดธแต่เป็นในแบบของ Dissection แต่มิใช่ว่าผมจะไม่ปลื้มนะครับ ผมคิดว่ามันก็ยังเป็นต้นแบบของดนตรีแห่งความตายอยู่ ชื่อของ Jon ยังคงขายได้ในความคิดผมและวง Dissection ก็ได้แสดงคอนเสิร์ตใหญ่ของวง โดยใช้ชื่อคอนเสิร์ตว่า Rebirth of Dissection ในวันที่ 29 กรกฎาคมปี 2006 โดยได้ขนเพลงดังๆของทุกๆอัลบั้มที่กล่าวมาข้างต้นและเพลงคัพเวอร์วงโปรดของ Jon อย่าง Elizabeth Bathory ของวง Tormentor ผมรู้สึกเสียดายที่จอนไม่เล่นคัพเวอร์เพลง Antichrist ของ Slayer แต่ก็รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจในทุกบทเพลงที่เล่นถึงแม้มิได้เห็นผ่านสายตาตัวเองแต่ก็เห็นผ่านทางจอมอนิเตอร์จากคอมพิวเตอร์
หลังจากคอนเสิร์ตแค่17วัน Jon ได้กระทำอัตวินิบาตกรรมตัวเองในห้องพักเมื่อวันที่16 สิงหาคม 2006 โดยลักษณะเหมือนบูชายัญตัวเองด้วยการจุดเทียน เพื่อนสาวของ Jon ได้กล่าวว่า ก่อนที่ Jon จะกระทำอัตวินิบาตกรรม Jon ได้พูดว่า I'm going far away for a long longtime I'm going to transilvania ประมาณว่า เขาจะเดินทางไปไกลแสนไกลและตลอดกาล เขาจะเดินทางไปทรานซิวาเนีย
เรื่องราวของ Jon และ Dissection จึงกลายเป็นอีก 1 มหากาพย์ของวงการแบลคเมทัล มิต่างจาก เรื่องราวของ Dead และ Euronymous ของวง Mayhem เลยมิแต่น้อย
ผมว่าวันนี้ผมได้แพร่มและพร่ามเรื่องราวของบุคคลและวงที่ผมเคารพรักไปมากพอสมควรแล้วเอาไว้โอกาสหน้าจะมาพร่ามเรื่องของวงต่อๆไปอีก ขอบคุณครับที่ติดตาม
แถมด้วยรูปของวง Dissection และ คลิบเวอร์ชั่นแสดงสด ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น